ถ้าพูดถึง "โรคมะเร็ง" คงไม่มีใครอยากให้ตัวเอง และคนที่เรารักเป็นโรคนี้ แต่บางครั้งก็อดกังวลไม่ได้ เพราะอาการบางอย่างทำให้คิดไปต่างๆนานาว่า มะเร็งกำลังถามหาอยู่หรือไม่ วันนี้ทีมงาน Life & Family มีข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์จากโรงพยาบาลบีเอ็นเอชเกี่ยวกับโรคมะเร็งในลำไส้มาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามอ่านกันเลยครับ
ท้องผูกเป็นประจำ สลับกับท้องเสีย คืออาการแสดงออกของมะเร็งลำไส้จริงหรือไม่
ตอบ : ไม่ใช่แค่ท้องผูกเท่านั้น อาการผิดปกติของลำไส้ เช่น ท้องเสียบ่อย และติดต่อกันเป็นเวลานาน
อาหารจานโปรด ประเภทปิ้งย่าง เป็นตัวการสำคัญของมะเร็งลำไส้จริงหรือไม่
ตอบ : อาหารปิ้งย่าง กำลังได้รับความนิยม แต่หลายคนอาจลืมไปว่าการรับประทานอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียมเป็นประจำ โอกาสที่จะได้รับสารก่อมะเร็งจากอาหารรมควัน และอาหารปิ้ง ย่าง ทอด เช่น เนื้อย่าง บาร์บีคิว และสเต็กย่อมมีได้สูง
อาหารหมักดอง เป็นตัวก่อมะเร็งจริงหรือไม่
ตอบ : อาหารที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารก่อให้เกิดสารอันตรายที่เป็นปัจจัยการเกิดมะเร็ง เช่น กลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ซึ่งหากสะสมในร่างกาย มีโอกาสก่อมะเร็งได้ในอนาคต
หากผลตรวจเลือดในอุจจาระเป็น possitive หมายความว่าเป็นมะเร็งลำไส้แน่ๆจริงหรือไม่
ตอบ : มีเพียง 2-5% ของผู้ป่วยที่พบว่ามีเลือดปนในอุจจาระแล้วเป็นมะเร็งลำไส้ ซึ่งต้องยืนยันผลซ้ำด้วยการตรวจหา DNA ของมะเร็ง และการตรวจส่องกล้องลำไส้ (Colonocopy)
หากพบติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ แสดงว่าเป็นมะเร็งลำไส้แล้วใช่หรือไม่
ตอบ : ไม่เสมอไป จนกว่าจะได้รับการยืนยันความผิดปกติของชิ้นเนื้อที่พบว่ามีเซลล์มะเร็งหรือไม่ ด้วยการตรวจส่องกล้องลำไส้เพื่อความแน่ใจ ซึ่งไม่ต้องกลัวเจ็บแต่อย่างใด
ผู้ชายมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้มากกว่าผู้หญิงจริงหรือไม่
ตอบ : เพศชายหรือเพศหญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ได้เท่าๆกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ตลอดจนรูปแบบการใช้ชีวิต
คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง มีโอกาสสูงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้มากกว่าคนปกติจริงหรือไม่
ตอบ : กรรมพันธุ์ หรือพันธุกรรม เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคมะเร็ง โดยมีส่วนเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ แต่พบไม่บ่อยนัก อย่างไรก็ตาม ประวัติมะเร็งลำไส้ในครอบครัว เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้มากขึ้น โดยกลุ่มนี้ควรเริ่มตรวจส่องกล้องลำไส้ตั้งแต่อายุ 40 ปี
คนอายุน้อยก็มีสิทธิเป็นมะเร็งลำไส้ได้จริงหรือ
ตอบ : โรคมะเร็งลำไส้ ส่วนมากจะพบในกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอายุน้อยจะไม่มีโอกาสเป็น เนื่องจากมะเร็งดังกล่าวใช้เวลาในการก่อตัว กว่าจะพบอาการแสดงออกอย่างชัดเจนต้องใช้เวลานาน
คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ มีโอกาสหายขาดได้หรือไม่
ตอบ : หากตรวจพบก้อนเนื้อร้ายได้เร็ว การรักษาก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก หรือสะบักสะบอมจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่รักษามะเร็งลำไส้ได้จริงหรือ
ตอบ : การตรวจอย่างละเอียดด้วยการส่องกล้องตรวจภายในลำไส้ใหญ่ช่วยคัดกรองความผิดปกติที่เกิดขึ้นในลำไส้ได้อย่างแม่นยำ หากพบระยะก่อนมะเร็ง และทำการรักษาได้ทันท่วงที คนไข้สามารถกลับมาให้ชีวิตได้ตามปกติ
อาการถ่ายอุจจาระ มีเลือดปนและปวดท้องเป็นประจำ คืออาการแสดงออกของมะเร็งลำไส้จริงหรือไม่
ตอบ : อาการถ่ายอุจจาระ มีเลือดปน อาจเป็นอาการของริดสีดวงทวารได้ และอาการปวดท้องเป็นประจำไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นมะเร็งลำไส้อย่างเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปวดและอาการร่วมอื่นๆ จึงควรให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และทำการรักษาต่อไป
หากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ การผ่าตัดคือหนทางการรักษาที่ดีที่สุดจริงหรือไม่
ตอบ : การผ่าตัดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอามะเร็งออก ซึ่งวิธีการผ่าตัดและการติดตามการรักษาขึ้นกับขนาดและการกระจายของมะเร็ง
เราจะป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ได้หรือไม่
ตอบ : เป็นการยากที่จะกำจัดและป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งลำไส้ทั้งหมด ดังนั้นการตรวจหามะเร็งลำไส้ตั้งแต่ต้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่อย่างไรก็การดูแลตัวเอง รับประทานอาหารที่มีเส้นใยมาก โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคมะเร็งได้อย่างน่าสนใจ...
“มะเร็งลำไส้” รักษาหาย ป้องกันได้!
หากเอ่ยถึงมะเร็ง แทบทุกคนย่อมนึกไปถึงโรคร้ายแรงที่ยากต่อการรักษา แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีมะเร็งบางชนิดที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถรักษาให้หายได้ หากอาการป่วยนั้นอยู่ในระยะที่ไม่สาหัสจนเกินไป และอีกทั้งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ สามารถป้องกันได้ด้วยตนเองโดยวิธีง่ายๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “มะเร็งลำไส้” ที่ในทุกวันนี้ได้มีอัตราการป่วยเพิ่มขึ้นถึงปีละ 1,000 คน
พ.อ.นพ.ปริญญา ทวีชัยการ ประธานชมรมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งลำไส้ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ว่า ใน 1 ปี มีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวถึง 50,000 คน และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2ของอเมริกันชนอีกด้วย ขณะที่ในเมืองไทยนั้น มะเร็งลำไส้ถูกพบเป็นอันดับ 5 ในผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด และในระยะหลังจากประสบการณ์ส่วนตัวพบว่า ผู้ป่วยจำนวนมากเป็นคนแถบภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร
“ต้องบอกว่าหากย้อนหลังกลับประมาณ 50–60 ปี คิดว่าผู้ป่วยโรคนี้ในเมืองไทยน่าจะน้อย เพราะไลฟ์สไตล์คนไทยในยุคนั้นเรานิยมกินผักเป็นพื้นฐาน เรียกได้ว่าไม่ว่ามื้อไหนก็จะต้องมีผักขึ้นโต๊ะ และจริงๆแล้วมะเร็งลำไส้นี้เป็นโรคของคนตะวันตก เพราะไลฟ์สไตล์ของเขาเป็นพวกกินเนื้อ เพราะสำหรับเมืองหนาวนี่ผักแพงกว่าเนื้อ เขาก็เลยไม่ค่อยได้กินผัก แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือวัฒนธรรมการกินของคนไทยในยุคปัจจุบันที่นิยมกินเนื้อสัตว์มากกว่ากินผัก ซึ่งตรงนี้อันตรายมาก”
พ.อ.นพ.ปริญญา กล่าวต่อไปว่า ความน่ากลัวที่สามารถเรียกได้ว่าเป็น “ภัยเงียบ” ของโรคนี้ ก็เพราะในระยะแรกๆ ของการป่วย ผู้ป่วยจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าตนเองกำลังถูกมะเร็งร้ายคุกคามอยู่ เพราะแทบจะไม่มีอาการใดๆ บ่งบอกทั้งสิ้น
“ที่สำคัญที่สุด คือ การตรวจร่างกาย อันนี้สำคัญมาก เพียงแต่ตรวจร่างกายประจำปีตั้งแต่อายุ 30 ปี ส่วนมะเร็งลำไส้ควรตรวจตอนอายุ 50 ปี เพื่อที่เมื่อหากมีอาการแล้วจะได้รักษาได้ทันท่วงที ผมพยายามเป็นอย่างมากที่จะรณรงค์ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงหนทางป้องกัน และทางรักษาโรคนี้ โดยเฉพาะการตรวจร่างกาย การเช็คสุขภาพ ที่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและรับมือแต่เนิ่นๆ หากเกิดตรวจพบว่าป่วย”
The Shock Story เรื่อง หนีศพมาเจอผี
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ : www.manager.co.th / Internet
Create By: Pal_Pitchapong